Nature of Business

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

DO to make every DAY your DREAM

บริษัทฯ ได้จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2553 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท โดยกลุ่มครอบครัวพรพัฒนารักษ์ เพื่อประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตและบริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (OEM) ต่อมาในปี 2556 บริษัทฯ ได้มองเห็นโอกาสในการสร้างเครื่องหมายการค้า (Trademark) เป็นของตัวเอง เนื่องจากบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการผลิต ประกอบกับมองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคตที่ดีของตลาด บริษัทฯ จึงเริ่มประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวภายใต้เครื่องหมายการค้า “NAMU LIFE” โดยมีชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ว่า “SNAILWHITE” ซึ่งสะท้อนถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากเมือกหอยทากเป็นส่วนประกอบ ในช่วงปี 2556 ถึง 2560 ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากขึ้น เห็นได้จากผลประกอบการของบริษัทฯ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุหลักมาจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงมีคุณประโยชน์ในการบำรุงผิวและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่เน้นความสวยงามแบบธรรมชาติ ประกอบกับแผนการตลาดของบริษัทฯ ที่มีการใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

ปัจจุบันเราเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิต วิจัยและพัฒนา ทำการตลาด และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องครัว และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ต่างๆของบริษัท

พัฒนาการที่สำคัญของบริษัทฯ

2565
  • ในเดือนสิงหาคม 2565 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติเข้าซื้อเงินลงทุนใน บจก. ดู เดย์ ดรีม ฟิลิปปินส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท จำนวน 33,660,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 51.00 ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 1 เปโซฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่ตราไว้ (ราคาทุน) รวมมูลค่า 33,660,000 เปโซฟิลิปปินส์ จาก บจก. ดู เดย์ ดรีม โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 ทำให้ บจก. ดู เดย์ ดรีม ฟิลิปปินส์ คอร์ปอเรชั่น มีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางตรงของบริษัทฯ บริษัทได้รับโอนหุ้นแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565
  • ในเดือนตุลาคม 2565 ผู้ถือหุ้นของ บจก. ดู เดย์ ดรีม โฮลดิ้ง ได้พิจารณาลดทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ของ บจก. ดู เดย์ ดรีม โฮลดิ้ง จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,000,000 หุ้น หุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ลงจำนวน 1,700,000 หุ้น (คิดเป็นประมาณ 61.03 ล้านบาท ที่อัตราแลกเปลี่ยน 35.90 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) คงเหลือ 300,000 หุ้น หุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
2564
  • เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 บริษัทฯ ได้เข้าทำรายการซื้อส่วนได้เสียในบริษัท คิวรอน จำกัด (“คิวรอน”) และ บริษัท อเล็กซี่เทรนนิ่ง แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด (“อเล็กซี่”) จากผู้ถือหุ้นเดิม เพิ่มเติมอีกร้อยละ 24 ทำให้สัดส่วนความเป็นเจ้าของเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 76 เป็นร้อยละ 100
  • เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 บริษัท นามุ ไลฟ์ พลัส จำกัด (“นามุ ไลฟ์ พลัส”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวนเงิน 295 ล้านบาท (เดิม 5 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท) โดยการออกหุ้นสามัญใหม่เป็นจำนวน 2,950,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
  • เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 บริษัท สกิน เมค สไมล์ จำกัด (“SMS”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เจเอ็มเอส โกลบอล โซลูชั่น จำกัด (“JMS”) จำนวน 800,000 หุ้น (ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40 ของหุ้นทั้งหมดใน JMS) ให้กับ GPC ในราคาขาย 79,666,657 บาท
2563
  • เมื่อวันที่ 5 มีนาคม บริษัทฯ ได้เข้าทำรายการเข้าซื้อกิจการ ในสัดส่วนร้อยละ 76 จากผู้ถือหุ้นเดิมของ บจก. คิวรอน และ บจก. อเล็กซี่ เทรนนิ่ง แอนด์ คอลซัลติ้ง เพื่อขยายธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม “Lesasha” และผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก “Sparkle” รวมทั้งบริการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่รองรับการขายสินค้าของ บริษัท
  • เดือนเมษายน บริษัท สกิน เมค สไมส์ จำกัด (“SMS”) บริษัทย่อย ได้ร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 40 ร่วมกับ GP Club Company Limited (“GPC”) ซึ่งเป็นบริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขนาดใหญ่สัญชาติเกาหลี เพื่อจัดตั้ง บจก. เจ เอ็ม เอส โกลบอล โซลูชัน เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปยังกลุ่มประเทศในแถบเอเชีย
2562
  • ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2562 วันที่ 17 ธันวาคม 2562 มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง บจก. สกิน เมค สไมส์ (“SMS”) บริษัทย่อย และ GP Club Company Limited (“GPC”) ซึ่งเป็นบริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขนาดใหญ่สัญชาติเกาหลี เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปยังกลุ่มประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้ง
2561
  • เดือนมกราคม บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย 2 บริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ตลอดจนเพื่อผลประโยชน์ทางภาษีต่างๆ บริษัทย่อยดังกล่าว ได้แก่
    (1) บจก. ดู เดย์ ดรีม เทรดดิ้ง
    (2) บจก. ดู เดย์ ดรีม โฮลดิ้ง
  • เดือนมีนาคม บริษัทฯ ได้ก่อตั้งบริษัทย่อย บจก. ดรีม เดอร์มาโทโลจี ด้วยทุนจดทะเบียน 50,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จำนวน 500,000 หุ้น เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชสำอาง Oxe’Cure โดยบริษัทฯ ถือหุ้น ณ วันจัดตั้งในสัดส่วนร้อยละ 95 และในเดือนเมษายน บริษัทย่อยดังกล่าวได้เข้าซื้อเครื่องหมายการค้าผลิตภัณฑ์เวชสำอางแบรนด์ Oxe’Cure จาก บจก. เวลโกร เมด
  • จัดตั้งบริษัทย่อย บจก. สกิน เมค สไมส์ ในเดือนมิถุนายน ด้วยทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จำนวน 50,000 หุ้น โดยทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ณ วันที่จัดตั้ง เท่ากับ 1,250,000 บาท มูลค่าหุ้นชำระแล้วหุ้นละ 25 บาท เพื่อประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น ไม่กระจ่างใส มีริ้วรอยหย่อนคล้อยและสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ แบบชาว มินเลนเนียล (Millennials) ภายใต้เครื่องหมายการค้า SoS (เอะสึ โอ เอะสึ) และ PRETTiiFACE’s (พริตตี้เฟส) โดยบริษัทฯ ถือหุ้น ณ วันจัดตั้งในสัดส่วนร้อยละ 70
  • บริษัทฯ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของบริษัทฯ ในประเทศฟิลิปปินส์ โดย บจก. ดู เดย์ ดรีม โฮลดิ้ง (บริษัทย่อย) เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน บจก. ดู เดย์ ดรีม เคซีเอ ฟิลิปปินส์ คอร์ปอเรชั่น จำนวน 33,660,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 เปโซฟิลิปปินส์ คิดเป็นร้อยละ 51 ของหุ้นที่ออกจำหน่าย คิดเป็นมูลค่ารวม 33,660,000 เปโซฟิลิปปินส์ หรือเทียบเท่า 21.17 ล้านบาท และได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนตามกฎหมายของประเทศฟิลิปปินส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2561 ซึ่งได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น บจก. ดู เดย์ ดรีม ฟิลิปปินส์ คอร์ปอเรชั่น ในเวลาต่อมา
2560
  • จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560
  • เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ จากเดิมหุ้นละ 100 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 225 ล้านบาท เป็น 318 ล้านบาท เพื่อรองรับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และจัดสรร (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 76 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายแก่ประชาชน (IPO) (2) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 2 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย ตามโครงการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย (ESOP) และ (3) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบัน
  • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 บริษัทฯ ได้มีมติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 15,000,000 ล้าน มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นละ 29.87 บาท ให้แก่ North Haven Thai Private Equity Clarity Company (HK) Limited (“NHTPEC”) ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อซื้อหุ้นบริษัทฯ โดยมี North Haven Thai Private Equity L.P. (“NHTPE”) เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดทางอ้อม (NHTPE ถือหุ้นทั้งหมดใน North Haven Thai Private Equity Holding (HK) Limited (“NHTPEH ถือหุ้นทั้งหมดใน NHTPEC) และเป็นบุคคลในวงจำกัด ภายใต้นิยามของประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ. 17/2551 เรื่อง การกำหนดบทนิยามในประเทศเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ ฉบับลงวันที่ 15 ธันวาคม 2551 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
  • ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2560 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2560 ได้มีมติอนุมัติแผนการจัดตั้งบริษัทย่อย 3 บริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ตลอดจนเพื่อผลประโยชน์ทางภาษีต่างๆ บริษัทย่อยดังกล่าว ได้แก่ (1) บจก. ดู อินฟินิท ดรีม เพื่อเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (“International Headquarter” หรือ “IHQ”) ที่ถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจในต่างประเทศของบริษัทฯ (2) บจก. ดู เดย์ ดรีม เทรดดิ้ง ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อขายสินค้าของบริษัทฯ ให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศ (3) บจก. ดู เดย์ ดรีม โฮลดิ้ง ในประเทศสิงคโปร์ เป็น Holding Company เพื่อลงทุนในธุรกิจของบริษัทฯ ในต่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560
    บจก. ดู อินฟินิท ดรีม ได้ทำการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และออกหุ้นใหม่ จำนวน 1,000,000 หุ้น ในราคามูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาทเรียกชำระแล้วร้อยละ 25 คิดเป็น 25,000,000 บาท และบริษัทฯ เข้าถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวจำนวน 999,997 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100
  • บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 76 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560
2559
  • ในเดือนมีนาคม ได้มีการปรับโครงสร้าง โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งทำให้ทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 60 ล้านบาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 500,000 หุ้น (1) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมกลุ่มครอบครัวพรพัฒนารักษ์ และ (2) เพื่อทำการแลกหุ้น (Share Swap) กับผู้ถือหุ้นเดิมของ นามุ ไลฟ์ พลัส ในอัตราส่วน 4 หุ้นของ บจก. นามุ ไลฟ์ พลัส ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ทำให้ภายหลังการปรับโครงสร้าง บริษัทฯ ถือหุ้นใน บจก. นามุ ไลฟ์ พลัส ในสัดส่วนร้อยละ 99.74
  • ทำการซื้อหุ้นในส่วนที่เหลือจำนวน 126 หุ้น ในราคา 100 บาทต่อหุ้น จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ บจก.นามุ ไลฟ์ พลัส ทำให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้น บจก. นามุ ไลฟ์ พลัส ในสัดส่วนร้อยละ 100
  • ภายหลังการปรับโครงสร้าง บริษัทฯ ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 60 ล้านบาท เป็น 225 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
  • ปรับปรุงโรงงานใหม่ในส่วนของการผลิต แล้วเสร็จในเดือนกันยายน และเริ่มดำเนินการผลิตในเดือนตุลาคม
  • ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเริ่มจัดตั้งและดำเนินการจำหน่ายสินค้าผ่านทางร้านค้าของบริษัทฯ ภายใต้ชื่อร้าน NAMU LIFE จำนวน 2 สาขา ที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม ในเดือนสิงหาคม และที่ห้างสรรพสินค้า Show DC ในเดือนพฤศจิกายน
2558
  • ขยายฐานการผลิตโดยการลงทุนซื้อที่ดินพร้อมโรงงาน ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเริ่มดำเนินการปรับปรุงโรงงานแห่งใหม่ในเดือนธันวาคม ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 58 ล้านบาท
  • ก่อตั้งบริษัทย่อย บริษัท นามุ ไลฟ์ พลัส จำกัด (“นามุ ไลฟ์ พลัส”) ในเดือนมีนาคม ด้วยทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จำนวน 50,000 หุ้น โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ณ วันที่จัดตั้ง เท่ากับ 1,250,000 บาท มูลค่าหุ้นชำระแล้วหุ้นละ 25 บาท เพื่อประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ถือหุ้น ณ วันจัดตั้งในสัดส่วนร้อยละ 69
2557
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและชำระแล้วจาก 1 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในเดือนมิถุนายน เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ
  • เริ่มขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อเป็นการเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยเริ่มต้นขายผ่านห้างบิ๊กซี ร้านวัตสัน และร้านบู๊ทส์ ในเดือนพฤษภาคม สิงหาคม และกันยายน ตามลำดับ
  • เริ่มขยายธุรกิจไปในต่างประเทศด้วยการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เข้าสู่ภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ประเทศฮ่องกง จีน พม่า และกัมพูชา
2556
  • เริ่มประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ภายใต้เครื่องหมายการค้า “NAMU LIFE” ตั้งชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ว่า “SNAILWHITE” โดยมีครีมบำรุงผิวหน้าเป็นผลิตภัณฑ์แรก คือ NAMU LIFE SNAILWHITE SECRETION FILTRATE MOISTURE FACIAL CREAM (“NAMU LIFE SNAILWHITE FACIAL CREAM”) ในเดือนมีนาคม เริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media) และกระจายสินค้าผ่านช่องทางผู้จัดจำหน่ายในร้านค้าแบบดั้งเดิม (Traditional Trade)
2553
  • ก่อตั้งบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตและบริการให้คำปรึกษาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (OEM) โดยครอบครัวพรพัฒนารักษ์ ในเดือนกันยายน 2553 ด้วยทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเริ่มต้น 1 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จำนวน 10,000 หุ้น